รวบรวมเรื่องน่ารู้ ของเหล่าสัตว์เลี้ยงสี่ขาที่เรารัก..
พันธุกรรมและโรคประจำสายพันธุ์
แมวเปอร์เซียมักมีแนวโน้มที่จะเป็น โรคไตหลายถุงน้ำ (Polycystic Kidney Disease: PKD) ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้บ่อยในสายพันธุ์นี้ โรคนี้ทำให้เกิดถุงน้ำจำนวนมากในเนื้อไต ส่งผลให้ไตไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โรค PKD สามารถถ่ายทอดจากพ่อแม่ไปยังลูกหลานได้ โดยแมวเปอร์เซียมีโอกาสเป็นโรคนี้สูงถึง 30-50% หากไม่ได้รับการคัดกรองก่อนผสมพันธุ์
เจ้าของแมวเปอร์เซียควรพาแมวตรวจสุขภาพและคัดกรอง PKD ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อการดูแลและป้องกันอย่างทันท่วงที
โครงสร้างทางกายภาพที่เป็นเอกลักษณ์
แมวเปอร์เซียมีลักษณะทางกายภาพบางอย่างที่อาจส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม โดยเฉพาะระบบทางเดินปัสสาวะและไต
พฤติกรรมการดื่มน้ำน้อย
แมวเปอร์เซียเป็นสายพันธุ์ที่มีนิสัย ดื่มน้ำน้อย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพไต
การดื่มน้ำน้อยทำให้ร่างกายขาดน้ำ ไตต้องทำงานหนักในการกรองของเสีย และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตหรือทางเดินปัสสาวะ
พฤติกรรมนี้อาจเกิดจากการไม่ชอบดื่มน้ำจากชามที่ไม่สะอาด หรือน้ำที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น น้ำที่มีคลอรีน หรือการดื่มน้ำที่ไม่เหมาะสม มีเเร่ธาตุเกินความจำเป็น
อาหารและการดูแล
แมวเปอร์เซียต้องการการดูแลด้านอาหารเป็นพิเศษ การให้อาหารที่มี โปรตีนและเกลือสูงเกินไป จะทำให้ไตทำงานหนักและเสื่อมเร็ว
การให้อาหารที่ไม่เหมาะสมในระยะยาว เช่น อาหารคน หรืออาหารที่ไม่สมดุลสำหรับแมว อาจเพิ่มโอกาสการเกิดโรคไต
เจ้าของควรเลือกอาหารสูตรเฉพาะที่ช่วยบำรุงไต เช่น อาหารที่มีฟอสฟอรัสและโซเดียมต่ำ รวมถึงสารอาหารที่ช่วยเสริมการทำงานของไต
การขาดการตรวจสุขภาพที่เหมาะสม
หลายครั้งเจ้าของแมวเปอร์เซียอาจไม่ทราบว่าแมวมีความเสี่ยงต่อโรคไต ทำให้ไม่ได้เฝ้าระวังหรือป้องกันอย่างเหมาะสม
โรคไตมักไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรก เมื่อพบปัญหา ไตก็มักเสื่อมสภาพไปมากแล้ว
การพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะการตรวจเลือดและการทำอัลตราซาวด์ไต จะช่วยตรวจพบปัญหาได้เร็ว หรือใช้ทรายแมวสำหรับบ่งบอกโรคเบื้องต้นก็สามารถทำได้